มาเริ่มต้นวันจันทร์สัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. 60 กันด้วย รองพื้นสูตร Liquid ของ Shu Uemura รุ่น The Lightbulb Essence Essential-Oil-In Foundation กันเถอะ หลังจากทดลองใช้มาครบ 1 สัปดาห์ ก็เลยคิดว่าเหมาะสมแล้วที่จะรีวิวรองพื้นเหลวตัวนี้ — ประกอบกับช่วงสัปดาห์นี้ อุณหภูมิบ้านเราก็จะอยู่ที่ระดับ 24 – 26 องศาเซลเซียส ซึ่งก็ค่อนข้างเย็น และแห้งมากกว่าปกติ แต่แดดยังแรงและร้อนอยู่นะ, แล้วรองพื้นตัวนี้ก็เหมือนกับว่าจะถูกประดิษฐ์มาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว
Shu Uemura The Lightbulb Essence Essential-Oil-In Foundation มีค่า SPF 45 PA+++ ซึ่งถือว่าช่วยเรื่องป้องกันแสงแดด และรังสี UV ได้ในระดับดีทีเดียว ทำให้เรามั่นใจขึ้นได้บ้างว่าผิวจะไม่คล้ำแดดมากเกินไปนัก ในระดับราคาที่ 2,400 บาท มาดูกันว่าเจ้าตัวนี้มีดีอะไร
ถึงแม้ว่าจะมีคำว่า Oil อยู่ในครีมรองพื้น, คง “มัน” น่าดู?? …อย่าเพิ่งคิดกันไปไกล อ่ะ เข้ารีวิว…
สำหรับเฉดผิวเรา เราเลือกซื้อเบอร์ 764 มา ซึ่งเป็นโทนสำหรับคนผิวออกเหลือง – ขาวปานกลาง
ด้านหลังขวดโชว์นัมเบอร์แบบนี้
ตารางด้านล่างนี่เราไปแอบ copy ข้อมูลจากหน้าเว็บไซท์ Shu Uemura มาแปะให้ดูค่ะ
จะเป็นบรรดา Essential Oil ที่เค้าได้ผสมผสานลงไปในรองพื้น ligthbulb ได้อย่างนวลเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เรียกได้ว่า
สวย พร้อมบำรุง
ตอนเข้าไปเปิดอ่านแล้ว แบบเรานี่เคลิ้มจนต้องซื้อมาใช้ให้ได้เลยทีเดียว, แล้วก็จัดมาแล้ว
![]() |
น้ำมันลาเวนเดอร์ (lavender oil) | ขึ้นชื่อด้านการให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เชื่อกันว่าน้ำมันลาเวนเดอร์เป็นส่วนผสมที่ช่วยชะลอความร่วงโรยและเพิ่มระดับ mRNA ของคอลลาเจนในผิว* เพื่อประสิทธิผลในการบำบัดเยียวยาอย่างล้ำลึก
*อ้างอิงข้อมูลภายในองค์กรของลอรีอัล จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ |
![]() |
น้ำมันรำข้าว (rice nuka oil) | มอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิว สกัดจากเยื่อหุ้มเมล็ดชั้นนอกที่แข็งของเมล็ดข้าวหรือ “รำข้าว”ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “นูกะ”(nuka) มีไฟโตสเตอรอล (phytosterol) และสารที่สะพอนิฟายไม่ได้ (unsaponifiable matter) ซึ่งต้านการเสื่อมสภาพจากออกซิเดชั่น อยู่ในระดับสูง |
![]() |
น้ำมันเจอเรเนียม (geranium oil) | ผู้ช่วยปรับสภาพผิว ถูกนำจากแอฟริกาใต้มายังยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ในการปรุงเครื่องหอม ทราบกันดีว่ามีสรรพคุณในการปรับสภาพผิว ชะลอความร่วงโรย และเพิ่มระดับ mRNA ของคอลลาเจนในผิว*
*อ้างอิงข้อมูลภายในองค์กรของลอรีอัล จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ |
![]() |
น้ำมันขิง (ginger oil) | เชื่อถือได้ในเรื่องเสริมความกระชับของผิว ในเอเชีย ขิงเป็นเครื่องปรุงกลิ่นแต่งรสอาหารและเสริมฤทธิ์ของตัวยาหลักที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง เชื่อกันว่าขิงเสริมกำลังวังชา และยังเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยกระชับผิว ชะลอความร่วงโรย เพิ่มระดับ mRNA ของคอลลาเจนในผิว* และแอนตี้ออกซิแดนท์
*อ้างอิงข้อมูลภายในองค์กรของลอรีอัล จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ |
![]() |
น้ำมันเมล็ดคาเมลเลีย (camellia seed oil) | อุดมด้วยความชุ่มชื้น เคล็ดลับความงามสำหรับผมและผิวของชาวญี่ปุ่นโบราณ เป็นที่ทราบกันดีว่าอุดมด้วยความชุ่มชื้นและเนื้อที่ช่วยให้ผิวนุ่มโดยไม่ทิ้งคราบเหนียวหรือคราบมันตกค้าง น้ำมันเมล็ดคาเมลเลียที่ผ่านการทำให้บริสุทธิ์แล้วประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ของโอเลอิก แอซิด (oleic acid) ในกลุ่มโอเมก้า 9 (omega 9) ไลโนเลอิก แอซิด (linoleic acid) ในกลุ่ม โอเมก้า 6 (omega 6) สเตียริก แอซิด (stearic acid) และปาล์มิติก แอซิด (palmitic acid) เป็นส่วนใหญ่ |
รายงานผลการใช้
ครีมรองพื้น Shu Uemura The Lightbulb Essence Essential-Oil-In Foundation ตัวนี้เราว่ามันเหมาะกับทุก ๆ ช่วงอายุนะ หากต้องการที่จะ “สวย พร้อมบำรุง” ใช้ได้ตั้งแต่สาว ๆ วัย 20 ไปจนถึงสาวใหญ่ 50+ ยังได้เลย, บำรุงไปเถอะ มันดี…
Lightbulb Essence Essential-Oil-In Foundation เหมาะกับผู้ใด ?
คนสภาพผิวแห้งมาก ๆ —> คนผิวธรรมดา จะเหมาะกับครีมรองพื้นตัวนี้มากที่สุด, ส่วนถ้าใครที่มี ผิวผสม, ผิว T-Zone แต่ดันชอบที่จะทำหน้าฉ่ำ ๆ เช่นเจ้าของบล็อกก็สามารถใช้รองพื้นตัวนี้ได้ แต่เราขอออกตัวไว้ก่อนว่า ณ ช่วงที่ลองใช้ตอนนี้มันหน้าหนาวไง 24 – 26 องศา ไม่ใช่ตอนช่วงเดือน มี.ค. – มิ.ย. ที่อากาศร้อนอบอ้าว แดดเปรี้ยง ถ้าเป็นอากาศช่วงหน้าร้อนแบบนั้นเราจะคิดหนัก แล้วหันไปใช้ตัวอื่นแทน
………………………………………………
สภาพผิวเจ้าของบล็อก :- ผิวผสม (ไม่แห้ง – ไม่มัน)
เนื้อสัมผัส = เป็นรองพื้นแบบเหลว ไหลย้อย, หากลองใช้ตัวบีบ (dropper) ที่ฝาขวดบีบเอาเนื้อรองพื้นขึ้นมาหยดดู จะไม่มีความหนืดให้เห็น, ความรู้สึกเหมือนรองพื้นสูตรน้ำเสียด้วยซ้ำ
แต่พอหยดและเกลี่ยทาลงบนผิวหน้า จะรู้สึกถึงความหนืดแบบไม่ฝืด (นึกออกป่าว) หนืดแบบลื่นเกลี่ยง่าย ไม่แห้งไวจนเกินไป, บางคนอาจจะบอกว่าเกลี่ยยาก แต่เราว่ามัน okay
กลิ่น = ถูกใจกลิ่น เพราะกลิ่นออกแนว essential oil ธรรมชาติจริง ๆ ยิ่งโดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบใช้ essential oil บำรุงผิวอยู่แล้ว เราเลยค้นพบสวรรค์สำหรับครีมรองพื้น <— พูดเว่อร์ เดี๋ยวจะหาว่าเราอวย
การความควบคุมมัน = อย่าให้พี่ต้องพูด ให้ดูภาพเลยดีกว่าเพราะเค้าก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น Essential-oil-in foundation
นั่นคือ “นิ้วชี้” ถูกต้อง….จะบอกทำไม
- ทดลองแบบไม่ทาแป้งทับ ปล่อยให้หน้าฉ่ำเงาทั้งวัน
เราต้องการจะให้ดูว่า หลังจากที่เราทารองพื้นนี้โดยที่เรา “ไม่ได้ทาแป้งทับ” แล้วพอเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ได้ใช้นิ้วปาดความมันตรงช่วงจมูก และร่องจมูกระหว่างแก้ม มาให้ดู จะเห็นได้ว่ามีความฉ่ำเงา และสีรองพื้นหลุดออกมาด้วยในบริเวณนั้น แต่สีผิวหน้าก็ยังโอเคอยู่ค่ะ
เอานิ้วเกลี่ย ๆ กลบให้ดี ๆ ก็ดูดีเหมือนเดิม. แต่พอตกเย็นมาสีรองพื้นก็แทบไม่ดรอบเลยนะ ^_^ สีรองพื้นหลุดลอกออกไปบ้างตามแต่สภาวะความทรหดของแต่ละกิจกรรม แต่ผิวยังคงฉ่ำเงาอยู่
- บางวันทดลองแบบทาแป้งฝุ่นทับ และ บางวันใช้แป้งตลับแบบมีรองพื้นทับ
ส่วนวันที่เราทารองพื้นตัวนี้ พร้อมโบกแป้งทับ, เวลาเหงื่อออกก็ไม่ได้มีความมันมากมายนะ พอรับได้ – แค่ฉ่ำ แลดูมีน้ำมีนวล, งานผิวหน้ายังคงดูดีในตอนตกเย็น
อันนี้ต้องอยู่ที่แป้งเองด้วย ว่าที่คุณผู้อ่านใช้มันช่วยคุมมันขนาดไหน
ซื้อต่อหรือไม่ Repurchase? = Yes, ซื้อตอนหน้าหนาว อากาศเย็น ๆ แบบนี้
สรุป = 8 / 10 คะแนน สีเค้าไม่ดรอบเลย
……………………………………
สาธุ! ขอให้อากาศเมืองไทยหนาวเย็นแบบนี้ ตลอดทั้ง 365 วัน ด้วยเทอญญญญญ… (ประนมมือท่วมหัว)
ไปดู Swatch สีเบอร์ 764 ของเราค่ะ
—- แบบในที่ร่ม นอกตัวบ้าน
—- แบบที่มีแดดส่องลงตรง ๆ และ
แบบสะท้อนแสงแดดนอกบ้าน
^___^
จบแล้วค่ะ หมดมุกจะเขียน
หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่กำลังมองหาของประทินโฉมในหน้าหนาวนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม “สภาพผิว, ฮอร์โมน, และ รูปแบบการใช้ชีวิต” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อ่านรีวิว ที่ไหน ๆ ก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินเอาล่ะกันนะคะ
Disclaimer: The products I reviewed/previewed on this blog are purchased by my own money.